บุหรี่
บุหรี่ มีลักษณะเป็นทรงกระบอกม้วนห่อด้วยกระดาษ
(ขนาดปกติจะมีความยาวสั้นกว่า 120 มิลลิเมตร และ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 10
มิลลิเมตร) มีใบยาสูบบดหรือซอยบรรจุภายในห่อกระดาษ
ปลายด้านหนึ่งเป็นปลายเปิดสำหรับจุดไฟ และอีกด้านหนึ่งจะมีตัวกรอง
ไว้สำหรับใช้ปากสูดควัน คำนี้ปกติจะใช้หมายถึงเฉพาะที่บรรจุใบยาสูบภายใน
แต่ในบางครั้งก็อาจใช้หมายถึงมวนกระดาษที่บรรจุสมุนไพรอื่น ๆ เช่น กัญชา
บุหรี่ ต่างจาก ซิการ์ ตรงที่บุหรี่นั้นมีขนาดเล็กว่า
และใบยาสูบนั้นจะมีการบดหรือซอย รวมทั้งกระดาษที่ห่อ
ซิการ์โดยปกติจะใช้ใบยาสูบทั้งใบ ซิการ์ชนิดที่มีขนาดเล็กพิเศษเท่าบุหรี่ เรียกว่า
ซิการ์ริลโล
บุหรี่เป็นที่รู้จักในกลุ่มคนที่ใช้ภาษาอังกฤษตั้งแต่ก่อนสงครามแห่งครายเมีย
เมื่อทหารแห่งจักรวรรดิอังกฤษ เริ่มเลียนแบบการใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อใบยาสูบ
จากทหารตุรกีแห่งอาณาจักรออตโตมัน
ผลเสียของการสูบบุหรี่ ทุกปีจะมีผู้เสียชีวิตจากบุหรี่ปีละ
400,000 คนหรืออาจจะมากว่านั้น
ผู้ที่อยู่กับผู้ที่สูบบุหรี่ก็ได้รับผลเช่นเดียวกัน ผลเสียของการสูบบุหรี่ได้แก่
1.โรคหัวใจ การสูบบุหรี่จะทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
ผู้ที่สูบบุหรี่จะเพิ่มอัตราการเกิดโรคหัวใจ 5 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
ยังกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติทำให้หัวใจและหลอดเลือดเกิดโรค
2.โรคมะเร็ง ผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสเป็นมะเร็งปอดสูง
นอกจากมะเร็งปอดแล้วบุหรี่ยังก่อให้เกิดมะเร็งที่คอ ปาก หลอดอาหาร ปัสสาวะ มดลูก
3.โรคอัมพาตและสมองเสื่อม ผู้ที่สูบบุหรี่วันละซองจะมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคอัมพาต2เท่าครึ่งเมื่อเทียบกับคนที่ไม่สูบ
นอกจากนั้นยังพบโรคสมองเสื่อมเพิ่มในผู้ที่สูบบุหรี่
4.โรคปอด
ปีหนึ่งจะมีผู้ที่สูบบุหรี่เสียชีวิตจากโรคถุงลมโป่งพอง ปอดบวม
หลอดลมอักเสบเป็นจำนวนมาก
5.การตั้งครรภ์และทารก ผู้ที่สูบบุหรี่จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
เป็นหมัน ครรภ์นอกมดลูกและการแท้งและยังเพิ่มอัตราการตายในทารก
6.การสูบบุหรี่กับสุขภาพช่องปาก
ควันบุหรี่จะทำลายเนื้อเยื่อที่ยึดระหว่างเหงือกและฟันทำให้เหงือกร่น ทำให้ฟันผุ
ทำให้แผลหายช้า มีกลิ่นปาก มีคราบบุหรี่ติดที่เหงือกและฟัน
7.การสูบบุหรี่กับโรคกระดูกและกล้ามเนื้อ ทำให้กระดูกพรุน
เกิดการอักเสบของข้อและกระดูกจากการออกกำลังได้ง่าย
ผู้ที่สูบบุหรี่มีโรคปวดหลังมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
8.การสูบบุหรี่กับโรคทางเดินอาหาร
การเลิกสูบบุหรี่
โดยส่วนใหญ่ ผู้ที่เลิกบุหรี่ได้ เลิกได้ด้วยตัวเอง
ความตั้งใจจริง กำลังใจการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง
การลดความเครียดช่วงที่อยากบุหรี่ ลดอาการอยากบุหรี่
เบี่ยงเบนความสนใจความอยากบุหรี่ได้
1. เตรียมตัว ตั้งใจแน่วแน่ ว่าต้องเลิกบุหรี่ด้วยตัวเอง
เตรียมความพร้อมทังร่างกายและจิตใจ
-ให้จดบันทึกเวลาและเหตุผลการสูบบุหรี่
จดเหตุการณ์ที่ทำให้อยากสูบบุหรี่
-เปลี่ยนพฤติกรรม เช่นเก็บบุหรี่ไว้อีกที่หนึ่ง
-ให้สูบนอกอาคาร
-ซื้อบุหรี่ครั้งละซองและซื้อชนิดที่ไม่เคยสูบ
2. กำหนดวัน"ปลอดบุหรี่"ของตนเอง
3. แจ้งแก่คนใกล้ตัว เพื่อให้กำลังใจเป็น
แรงสนับสนุนให้เลิกได้สำเร็จ
4. เมื่อถึงวันสำคัญ
ที่กำหนดแล้วว่า"วันปลอดบุหรี่"ให้หยุด
-ทิ้งบุหรี่และอุปกรณ์ทั้งหมด
-เปลี่ยนพฤติกรรม เช่นไม่ดื่มกาแฟ
-ควรดื่มน้ำผลไม้
-เมื่ออยากสูบบุหรี่ให้หางานอย่างอื่น
5. เมื่อเริ่มเลิกบุหรี่ได้แล้ว
-ให้สูดหายใจเข้าออกลึกๆ
ดื่มน้ำมากๆเพื่อลดความอยากหรืออาจจะอาบน้ำถ้าเป็นไปได้
-ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
-ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำประจำตอนสูบบุหรี่ เลี่ยงสถานการณ์
สถานที่ที่เคยสูบบุหรี่เป็นประจำ
-ให้นึกถึงสิ่งที่ดีๆเมื่ออดบุหรี่ได้
-หยอดกระปุกให้ลูกเมื่อไม่ได้สูบบุหรี่
-หากท่านล้มเหลวครั้งแรกให้พยายามใหม่
มีหลายคนที่สามารถประสบผลสำเร็จเมื่อมีความพยายาม
-บอกเพื่อนร่วมงานหรือครับครัวว่า ห้ามสูบบุหรี่ใกล้ตัว
-ปิดประกาศหน้าห้องว่า"เขตปลอดบุหรี่"
-ใช้เวลาส่วนใหญ่ในที่ๆสูบบุหรี่ไม่ได้
-หลีกเลี่ยงกาแฟ สุรา อาหารรสจัด
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/cigarette/index.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น